การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้างหากคุณกำลังจะย้ายไปต่างประเทศ ?

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้าง
Share

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้างหากคุณกำลังจะย้ายไปต่างประเทศ ?

จากประการะแส ย้ายประเทศกันเถอะ ต้องยอมรับเลยว่ากระแสนี้มาเเรงจริงๆ สำหรับคนรุ่นใหม่รวมทั้งตัวเราเองด้วย แต่ความเป็นจริงเเล้วการโยกย้ายถิ่นฐานนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะคะในความคิดเรา เพราะเราจะเห็นได้ว่าจากอดีตมาจนถึงปัจจุปัน เราเห็นผู้คนมากมายต่างเสาะแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องประสบการณ์ตรงของเราเองจากการที่ไปลองใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษก่อนที่เราจะย้ายไปอาศัยอยู่ถาวร ซึ่งเราได้ไปใช้ชีวิตมาเป็นเวลา 6 เดือน แต่ต้องบอกก่อนว่าประสบการณ์ของเราอาจจะไม่ได้ตรงกับชีวิตใครหลายคน เพราะที่เราจะพูดนี้คือเรื่องของการปรับตัวพื้นฐานนะคะ ยังไม่เกี่ยวกับชีวิตการทำงานเนื่องจากว่าที่เราไปมานั้นเป็นวีซ่าท่องเทียวเรายังไม่สามารถทำงานได้นั่นเอง

เอาเป็นว่าไปดูกันค่ะว่าการ ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง มีอะไรที่เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจก่อนย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ ให้เพื่อนๆได้อ่านเพื่อเตรียมความพร้อมและประกอบการตัดสินใจกันนะคะ

1. อากาศ

อย่างที่เราเคยได้ยินมาสภาพอากาศที่อังกฤษนั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ เห็นแดดอยู่ดีๆ เอ๊าฝนดันตกซะงั้น ที่นี่มีฝนตกตลอดปี แต่จะตกแบบไปเร็วมาเร็วในช่วงหน้าร้อนสลับกันในหนึ่งวันอาจจะตก 3-4 ครั้งหรือมากกว่านั้นแม้ว่าท้องฟ้าจะดูสดใสมีเเดดจ้าอยู่ก็ตาม เมฆลอยมาเมื่อไหร่นั่นเเหละค่ะคุณฝนกำลังมา สำหรับในช่วงหน้าหนาวหากวันไหนฝนตกวันนั้นก็จะครึ้มไปทั้งวัน ท้องฟ้าจะเป็นสีเทามืดมนไปหมดและก็จะเป็นแบบนี้ไปเกือบทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว ในหน้าหนาวพระอาทิตย์ก็จะตกตั้งแต่บ่ายสามโมง แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนนี่ 4 ทุ่มก็ยังสว่างโล่ เดินเล่นนอกบ้านได้สบายๆ

ในระยะเวลา 6 เดือนที่เราไปนั้น อากาศร้อนสุดน่าจะอยู่ที่ 20 องศา ต่ำสุด -4 องศา อาจจะเพราะด้วยเราอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ อากาศจะหนาวกว่าทางใต้หน่อย ช่วง 3 เดือนเเรกเป็นอะไรที่ทรมานมาก ไม่อยากออกไปไหนทำอะไรเลย อยากนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงอย่างเดียวเพราะเราไม่ชินกับสภาพอากาศและความหนาวเย็นคือมันหมด passion ในการทำอะไรหลายๆอย่าง

แต่สุดท้ายแล้วเราก็สามารถปรับตัวกับทุกอย่างได้ในช่วงสามเดือนหลังรู้สึกว่าชีวิตแฮปปี้มากกับรูปแบบชีวิตอันเรียบง่ายของที่นี่ รู้ตัวอีกทีก็อยู่จนถึงวันสุดท้ายของวีซ่าเลยค่ะ

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้าง

อากาศดีท้องฟ้าปรอดโปร่ง ที่นี่อากาศบริสุทธิ์มากๆ เลยค่ะ เดินออกจากบ้านนี่รู้สึกเหมือนหายใจโล่งเต็มปอด

 

 

 

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้าง

ช่วงหน้าหนาวหิมะตกปีละครั้งสองครั้ง ที่นี่หนาวนะแต่ไม่ค่อยมีหิมะเนื่องจากอังกฤษนั้นมันเป็นเกาะและชื้น

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

 

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้าง

วันที่อากาศสดใส ในสวนสาธารณะใกล้บ้าน

2. อาหาร

ถ้าเบื่อจากเบอร์เกอร์ เฟรนด์ฟราย สเต็ก และพิซซ่าแล้ว สำหรับเรื่องอาหารเราคิดว่าไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ เนื่องจากที่อังกฤษแถวที่เราอยู่มีร้านเอเชียขายของมากมาย มีทุกอย่างเครื่องปรุง ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ฟิลิปินส์ น้ำปลาร้านี่มีแทบทุกยี่ห้อง มีทุกอย่างจริงๆ ค่ะ จนมีความรู้สึกว่าไม่ได้โหยหาเลยสำหรับอาหารบ้านเรา ส่วนเรื่องราคาอาจจะแพงกว่าไทยนิดหน่อย เช่นน้ำปลาร้าไมค์ ขายขวดละ 3 ปอนด์ ก็ประมาณ 120 แต่ที่เเพงและหายากนี่น่าจะเป็นผักไทยนี่แหละค่ะ แต่เอาเป็นว่าเราสามารถหาผักมาอะแด็ปกินเองได้ เช่นมะระกอเเพงเราก็ตำเเตงกินกับปลาเเซลมอล ส่วนสำหรับอาหารอย่างอื่นในอังกฤษตามซุปเปอร์เรารู้สึกว่ามันถูกพอๆ กับไทย เช่น นมแกนลอนนะ 2 ปอนด์ (80 บาท) แซลมอน 2 ชิ้น เเพ็คละ 3 ปอนด์ (120 บาท) องุ่น แพ็คละ 1 ปอนด์ (40 บาท) ไข่ไก่ โหลละ 2 ปอนด์ (80 บาท) แต่ที่ถูกกว่าไทยแน่นอนคือเบียร์นี่เเหละค่ะ ถูกมากกกก คอเบียร์นี่ต้องรักอังกฤษอย่างเเน่นอน เราชอบไปดื่มที่ผับมันได้บรรยากาศเเต่เสียดายช่วงที่ไปล็อคดาวน์เลยมีโอกาสได้ไปดื่มไม่บ่อยนัก แต่เอาเป็นว่าทุกวันหยุดที่บ้านเราเขาไม่ค่อยอยู่บ้านกัน โน่นค่ะแม่กับยายไปนั่งเล่นบิงโกที่ผับเที่ยงคืนค่อยกลับบ้าน บางวันเราก็ได้ติดสอยห้อยตามไปกับเขาด้วย ชมรมผู้สูงวัย 555

เอาเป็นว่าเรื่องอาหารถ้าคุณทำอาหารไทยกินเองได้นี่ไม่ต้องกังวลเลยค่ะมีทุกผลิตภัณฑ์ปรุงรสให้คุณได้หาซื้อมาทำกิน

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

ตำแตงทะเลตำกินเองอร่อยมากก

บะหมี่ร้านอาหารจีน รสชาติถูกปาก สั่งอาหารจีนพอได้แต่สั่งอาหารไทยรสชาติมันไม่ใช่อะ

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

ตำเอง อันนี้น้ำปลาร้าแม่ประนอมกลมกล่อมที่สุด

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่ถ้ากินนอกบ้านก็จะเจอแต่อาหารประมาณนี้ค่ะ

3. ความเป็นอยู่ภายในบ้าน

ด้วยอากาศที่หนาวและฝนบ้านแทบทุกหลังที่อังกฤษเขาจะไม่ค่อยเปิดประตูหน้าต่างกันค่ะ คือเราไปเเรกๆ ร่างกายเราปรับตัวไม่ได้ มันเหมือนกับว่าอากาศไม่ถ่ายเทอาจจะเพราะเราเป็นภูมิแพ้อยู่หน่อยๆ เพราะที่ไทยเราชินกับการเปิดประตูเปิดหน้าต่างหรือเปิดแอร์ แต่ที่นั่นไม่มีแอร์นะคะ ช่วงเดือนเเรกเวลานอนรู้สึกเหมือนจะขาดใจทุกครั้ง อาการเหมือนกับหายใจไม่ออก เเต่ดีหน่อยที่มีพัดลมเอาไว้คอยเป่าจมูกให้อากาศได้ถ่ายเทดีขึ้น

อีกอย่างที่นี่เขาใส่รองเท้าในบ้านกันค่ะ มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าบ้านมันสกปรกไปหมด คือเดินจากข้างนอกพื้นเเฉะๆ ที่ฝนตกเเละก็เดินเข้าบ้านทั้งหมาทั้งคน แต่สำหรับบางบ้านเขาอาจจะมีการถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน แต่ที่เห็นมาก็ค่อนข้างน้อย หากคุณไปอยู่และมีพื้นที่ของตัวเองคุณก็อาจจะสร้างกฏขึ้นมาได้ว่าห้ามใส่รองเท้าในบ้านของฉันนะ แต่ถ้าหากคุณไปอาศัยญาติหรือครอบครัวอยู่ก็อาจจะต้องปรับตัวตรงนี้ค่ะ

บ้านทุกหลังคือปิดหน้าต่างกันมิดชิดเลย อาจจะเพราะความชื้นด้วยที่นี่มีตัวทากเยอะมากๆ มันชอบเข้าไปในบ้านวันไหนที่ฝนตก

ประสบการณ์จากอังกฤษ

เจ้าหมาตัวดี ชอบวิ่งเข้าห้องนอน

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

แมวเจ้าปัญหา ตอนเเรกก็เหมือนจะทนขนมันไม่ไหว พอมันอ้อนเข้าบ่อยๆ ฉันเลยต้องกลายเป็นทาวแมวโดยปริยาย

4. ขนส่งสาธารณะการเดินทาง

ปกติแล้วเราอยู่ไทยไปไหนมาไหนเราใช้รถยนต์ตลอด อย่างบางครั้งไปเซเว่นยังนั่งวินมอเตอร์ไซเลย แต่พอไปอังกฤษแล้วไม่ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่คือเดิน เดิน เดิน และก็เดิน เอาเป็นว่ามันคือช่วงเวลาที่เราเคยเดินเยอะมากที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ

แม้เราจะไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่เเต่เราก็รู้สึกว่าการเดินทางในอังกฤษนั้นสะดวกสบายมาก อย่างรถเมล์นี่มีตารางเวลาบอกแล้วมาตรงเวลาแบบเป๊ะๆ เดินทางไปต่างเมืองเราก็ใช้รถไฟ ซึ่งก็สะดวกมากๆ เราเคยนั่งจาก Manchester ไป London เพียงเเค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง การซื้อตั๋วก็ง่ายทำได้ผ่าน App ง่ายและสะดวกสบายมากๆ สำหรับเราคนที่พึ่งเคยมากอังกฤษเป็นครั้งแรกแบบเรา แถมยังตกเครื่องขากลับไทยที่ลอนดอนอีกต่างหาก แต่ก็สามารถเอาตัวรอดเองได้เพราะระบบขนส่งสาธารณะที่เอื้ออำนวย

สำหรับใครที่อยู่เป็นครอบครัวการมีรถยนต์ก็จะสะดวกไปอีกเเบบ แต่อย่างว่ามันก็ก็จะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายหลายบิลเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Road tax, Insurance, Parking Fee ที่ไม่ได้จะจอดไปได้ทุกที่เหมือนบ้านเรา อ้ออีกอย่างก็คือการได้มาซึ่งใบขับขี่ของที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนที่เราทำได้ที่ไทย แต่สำหรับใครที่ไปอยู่ตัวคนเดียวเราก็ว่าไม่น่าจะคุ้มเลยที่จะจ่ายอะไรพวกนี้เพราะคุณสามารถใช้รถขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบายและตรงเวลา เเต่ถ้าหากคุณไม่มายด์เรื่องค่าใช้จ่ายก็จัดไปค่ะ ^^

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

tram ค่ะ เป็นรถรางวิ่งยาวตามแนวชายหาดเมืองใกล้ๆ

การปรับตัวในอังกฤษ มีอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่เราใช้เเต่ tram ไม่ก็เดินค่ะรถเมล์ไม่ค่อยได้ขึ้นเท่าไหร่เพราะไม่ได้ไปไหนไกลๆ

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

ในวันที่ต้องเดิน ฟุตบาทกว้างมากกก ที่นี่คนเเก่หรือคนพิการเขาจะชอบนั่งรถเข็ญไฟฟ้าสะดวกมากๆค่ะนั้งไปได้ทุกที่ไม่ต้องมีคนมาเข็ญก็เดินทางได้สบายๆ

 

5. นิสัยของคนอังกฤษ

ด้วยนิสัยของคนอังกฤษที่เขาเป็นคนตรงๆ คิดพูดแสดงความคิดเห็นได้ ถ้าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรเราก็บอกเขาไป ครั้งต่อไปเขาจะได้ไม่ทำอะไรที่เราไม่ชอบ ตอนที่เราไปเเรกๆ กับคนในครอบครัวของเเฟนเรารู้สึกว่าเราเกรงใจเขาไปหมด นึกออกไหมคะนิสัยคนไทยไม่กล้า ขี้เกรงใจ กลัวเขาจะไม่ชอบหน้าเรา เรื่องของเรื่องคือน้องสาวเเฟนชอบพาหมาเข้ามาคุยกับเราที่ห้องนอน ตอนเเรกเราก็ไม่กล้าบอกนอกกลัวน้องจะไม่ชอบเราเพราะน้องรักหมาของเขามากกกกกถึงมากที่สุด เราก็บ่นๆ ให้เเฟนฟังจนเเฟนทนไม่ไหว เเฟนเลยไปบอกกับน้องไปว่าเราไม่ชอบให้มีขนหมาในห้องนอนและหลังจากนั้นน้องก็ไม่เคยเอาหมาเข้ามาอีกเลย นอกจากเขาจะไม่ได้ไม่พอใจเราแล้ว แถมยังห่วงเราอีกว่าเราเป็นภูมิเเพ้ หาพัดลมหากเครื่องดูดฝุ่นมาให้

ด้วยนิสัยที่เขาพูดกันตรงๆ คือเราบอกเลยว่าอยู่ไปสักพักปรับตัวได้กับความตรงฉินแล้วเรารู้สึกสบายใจมาก เราไปอยู่กับครอบครัวของเเฟนทุกคนเขาทำตัวเฟรนลี่มาก ทุกคนในครอบครัวมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่าจะคนแก่หรือหนุ่ม เรามีความรู้สึกเหมือนเพื่อนเราไม่รู้สึกเป็นส่วนเกินแม้แต่นิดเดียว แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นมานั่งเอาอกเอาใจกัน อย่างเห็นได้ชัดเลยเขาจะไม่มานั่งถามกันว่ากินข้าวหรือยังอะไรแบบนี้เหมือนบ้านเรา อาจจะมีถามเเค่ว่าดื่มชาดื่มกาแฟไหมอะไรประมาณนี้ แต่ถ้าหากว่าเราทำอะไรผิดเขาก็จะตักเตือนซึ่งๆ หน้าว่ากันตรงนั้น จบแล้วก็คือจบไม่มานั่งบ่นนั่งด่ากันพร่ำเพรื่อ อีกอย่างทุกคนมีอิสระภาพที่จะทำอะไรได้ทุกอย่างถ้าสิ่งนั้นมันไม่ทำให้คนในบ้านเดือดร้อน ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวและให้เกียรติซึ่งกันและกัน

หลายคนอาจจะมองว่าคนอังกฤษจะดูหยิ่ง แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรแถมใจดีอีกต่างหาก อย่างข้างบ้านตอนเเรกเราก็แอบกังวลว่าเอ๊ะดูเหมือนเขาเหยียดเรารึเปล่านะเห็นเราเป็นเอชียหัวดำ ชอบทำเหมือนไม่อยากคุยด้วย เเต่พอได้พูดคุยทักทายเท่านั้นเเหละถือขวดเบียร์มานั่งคุยหน้าบ้านกันทั้งครอบครัวเเทบทุกเย็น

อ่อ ต้องแอบบอกนิดนึงนะคะว่าสังคมของชาวอังกฤษส่วนใหญ่ทางตอนเหนือที่เราเห็นนั้นเขาจะไปไหนมาไหนกันแบบเป็นครอบครัว ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าหากคุณไปทำงานที่นั้นเเล้วเอ๊ะ ไม่มีใครชวนเที่ยวเลย ก็เพราะว่าเขาให้ความสำคัญกับครอบครัวมากๆค่ะ วันหยุดนี่คือวันของครอบครัว แต่สำหรับสังคมของนักเรียนอาจจะต่างไปอันนี้เราก็ไม่ทราบนะคะ เรายังไม่เคยมีประสบการณ์ตรงนั้น

ย้ายประเทศต้องปรับตัวอะไรบ้าง

อีกอย่างที่นี่คือถ้าออกไปดื่มเขาจะไม่ขับรถเลย จะนั่งเเท็กซี่หรือเดินเท่านั้น แม้จิบเพียงนิดเดียวก็จะไม่ขับรถออกจากบ้าน

 

ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่เราได้พบเจอมาเราเลยอยากนำมาถ่ายทอดในมุมของเรา แต่สำหรับคนอื่นอาจจะเจอประสบการณ์ที่เเตกต่างกันออกไป ถ้าจะให้บอกว่าทั้งหมดทั่วทั้งเกาะอังกฤษเป็นแบบนี้จริงๆ นะ แบบนั้นก็คงจะไม่ใช่ เอาเป็นว่านี่เป็นเพียงมุมเล็กๆ ของเราที่อยากจะให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ การปรับตัวในอังกฤษ สำหรับผู้ที่จะมาอยู่ที่อังกฤษทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คร่าวๆไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ถ้านึกขึ้นได้เดียวจะมาเล่า Part 2 ให้ฟังอีกอย่างแน่นอนค่ะ ^^

 

Related posts