10 Relationships เช็คด่วน! ตอนนี้คุณมีรูปแบบความสัมพันธ์ใดอยู่
นำเสนอความสัมพันธ์ (Relationships) แต่ละรูปแบบในภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งความหมายของแต่ละความสัมพันธ์เพื่อให้คุณได้เข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น เพราะโลกของเราไม่ได้กำหนดความสัมพันธ์มาเพียงรูปแบบเดียวดังนั้นไปเรียนรู้กันค่ะ ว่าแต่ละความสัมพันธ์นั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง
ตอนนี้ชีวิตของคุณเรียกได้ว่าอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบใด จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ไปทำความรู้จักทั้ง 10 รูปแบบความสัมพันธ์ได้พร้อมกันที่นี่ค่ะ
- MONOGAMOUS (โมโนกามูส)
- OPEN RELATIONSHIP (โอเพ่น รีเลชั่นชิพ)
- POLYAMOROUS (โพลี่เอมูลัส)
- LONG-DISTANCE RELATIONSHIP (ลองดิสแท่น รีเลชั่นชิพ)
- DOMINANT AND SUBMISSIVE RELATIONSHIP (โดมิแน้น แอนด์ ซัพมิสซีพ รีเลชั่นชิพ)
- CO-DEPENDENT RELATIONSHIP (โค ดีเพนเด้น รีเลชั่นชิพ)
- CASUAL RELATIONSHIP (แคชชวล รีเลชั่นชิพ)
- FRIENDS WITH BENEFITS (เฟรนด์วิดเบเนฟิต)
- ENGAGEMENT (เอนเกจเม้น)
- TOXIC RELATIONSHIP (ทอคสิก รีเลชั่นชิพ)
MONOGAMOUS (โมโนกามูส)
ความสัมพันธ์แบบคู่สมรสคนเดียว เป็นความสัมพันธ์แบบดั้งเดิม เป็นความสัมพันธ์ที่คนสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันและมีเพียงกันและกันเท่านั้น คือการที่คุณกำลังผูกมัดตัวเองกับใครคนพิเศษคนนั้นในชีวิตเพื่อที่จะเป็นรักเดียวของคุณ พูดง่ายๆ ก็คือมันคือความสัมพันธ์ที่หลายๆ คนอาจจะคาดหวังนั่นเองค่ะ
แต่ทั้งนี้ความสัมพันธ์รูปแบบ Monogamouse แบบนี้ เพราะบางคนอาจไม่สามารถทำได้ดีในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ได้ หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถมีคู่ครองได้เพียงคนเดียว Monogamouse หรือการมีคู่สมรสคนเดียวอาจไม่ใช่แนวทางในรูปแบบความสัมพันธ์ของคุณค่ะ
OPEN RELATIONSHIP (โอเพ่น รีเลชั่นชิพ)
ความสัมพันธ์แบบเปิดหมายความว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่คนสองคนเท่านั้น คนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่เปิดกว้างจะเปิดโอกาสให้คู่ของตนนั้นสามารถคบหากับคนอื่นๆ ได้ระหว่างที่คบหากับตนนั่นเอง
รูปแบบความสัมพันธ์นี้ คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความสัมพันธ์ที่มีคู่สมรสคนเดียว (Monogamnous) หลายคนอาจมีความรู้สึกว่า Open Relationship ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นๆ ที่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันในรูแแบบความสัมพันธ์นี้
ถึงแม้จะเป็นความสัมพันธ์แบบเปิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถทำสิ่งที่คุณต้องการได้ คุณไม่สามารถละเลยคนรักได้ คุณยังคงควรตั้งกฎเกณฑ์และขอบเขต และมีองค์ประกอบต่างๆ มากมายให้นึกถึงหากคุณอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้
หากคุณตัดสินใจตกลงกันที่จะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้คุณจะต้องยอมรับได้ว่าคุณไม่มีปัญหาทางความรู้สึกหากเมื่อคู่ของคุณต้องการมีความสัมพันธ์ในเรื่องเพศกับคนอื่น คุณจะไม่รู้สึกอะไรตราบใดที่พวกเขาไม่ได้มีการพัฒนาความรู้สึกต่อกัน
POLYAMOROUS (โพลี่เอมูลัส)
ในความสัมพันธ์แบบมีคนรักหลายคน หมายถึงการคบหาอยู่ในความสัมพันธ์ด้วยกันมากกว่า 2 คนขึ้นไป เป็นการที่คุณยอมรับคนอื่นเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนรักของคุณโดยไม่ถือเป็นการนอกใจเพราะทุกคนมีความสัมพันธ์ร่วมกัน
สิ่งนี้แตกต่างไปจากความสัมพันธ์แบบเปิด Open Relationship เล็กน้อยเพราะทุกคนมีส่วนร่วม ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบเปิดจะแยกจากกัน ในความสัมพันธ์แบบเปิด จะมีผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์หลักเพียง 2 คนเท่านั้น ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบมีคนรักหลายคนก็มีผู้ร่วมอยู่ในความสัมพันธ์หลายคน ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ชีวิตของทุกคนจะมีความเกี่ยวพันกันมากขึ้นและบางครั้งทุกคนก็จะอยู่ด้วยกันภายใต้หลังคาเดียวกัน ดังนั้นคุณจะต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนเข้ากันได้ในความสัมพันธ์นี้
และก็จำเป็นมากในการแบ่งเวลาสำหรับทุกคนในความสัมพันธ์ของคุณให้เท่าเทียมกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์นั้นอยู่ไปได้ยาวนาน
พอนึกภาพแล้วก็คงคล้ายกับไทยเราสมัยก่อนในอดีต ที่สามีบางบ้านอาจมีภรรยาได้มากกว่า 1 คน นั่นเอง
LONG-DISTANCE RELATIONSHIP (ลองดิสแท่น รีเลชั่นชิพ)
ความรักทางไกลสามารถทดสอบความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดได้จริงๆ มันคือช่วงเวลาที่คนสองคนอยู่ในความสัมพันธ์ แต่พวกเขาอาศัยอยู่ห่างไกลจากกัน
ในหลายคู่เมื่อต้องอยู่ห่างไกลกันพวกเขามักจะมีการตัดสินใจว่าจะเลิกกันหรือคบกันต่อไป เพราะการมีความสัมพันธ์ที่คุณไม่สามารถเห็นคนสำคัญของคุณเป็นประจำทุกวันได้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับหลายๆ คน
แต่ในบางคู่พวกเขาตัดสินใจคบหากันต่อไปโดยไม่คำนึงถึงระยะทาง และนั่นคือความสัมพันธ์ทางไกล
แทนที่จะได้ขับรถไปเยี่ยมคนรัก คุณอาจต้องขึ้นเครื่องบินแทน มันอาจจะน่าหงุดหงิด แต่สำหรับคนที่ใช่ ความสัมพันธ์ทางไกลนี้ก็คุ้มค่า
ตามหลักแล้วการมีความสัมพันธ์ทางไกลเป็นเพียงชั่วคราวหรือระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะระหว่างนั้นพวกเขาจะต้องมีการวางแผนว่าทั้งสองต้องการที่จะมาร่วมใช้ชีวิตด้วยกันในที่ใด การวางแผนนี้อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากคนๆ หนึ่งจะต้องตัดสินใจออกจากงาน ครอบครัว หรือเพื่อนฝูงเพื่อไปอาศัยอยู่กับคนรักในสถานที่ที่แปลกใหม่และไม่คุ้นชินในเกือบแทบทุกด้าน
เพื่อให้ความสัมพันธ์ทางไกลนั้นไปกันได้ยาวนาน หากคุณคิดว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ คุณจำเป็นที่จะต้องมีการสื่อสารที่ดี มีการติดต่อกันอยู่ตลอดเวลาเพราะคุณไม่ได้เห็นหน้ากันทุกวันเหมือนคนรักทั่วไปอย่างน้อยการสื่อสารต้องทำให้ได้มากกว่าคู่ที่อาศัยอยู่ใกล้กัน หมั่นเติมความหวาน ความเอาใจใส่ ซึ่งกันและกันเพื่อให้คู่ของคุณรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่คุณมีต่อกันแม้จะอยู่ไกลกันก็ตาม
บางคนอาจจะคิดว่าคุณบ้าไปแล้วที่เลือกอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์นี้เพราะคุณไม่สามารถเจอหน้าหรือสัมผัสคนรักของคุณได้เลย แต่ถ้าคนนั้นคือคนที่ใช่จริงๆ สำหรับคุณมันก็คุ้มค่าที่จะรอว่าไหมคะ
DOMINANT AND SUBMISSIVE RELATIONSHIP (โดมิแน้น แอนด์ ซัพมิสซีพ รีเลชั่นชิพ)
ความสัมพันธ์ที่มีอำนาจเหนือกว่าและยอมจำนน หมายความว่าเป็นความสัมพันธ์ในเรื่องของ SEX ที่เป็นการสลับกันมีอำนาจเหนือกว่าหรือยอมจำนน บางคนถึงกับสลับไปมาระหว่างสองบทบาทของอำนาจเหนือและยอมจำนน
50 Shades of Grey เป็นตัวอย่างง่ายๆ ของเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์ที่เหนือกว่าและยอมจำนน โดยทั่วไป สื่อถึงรสนิยมทางเพศของคนสองคนที่มีความต้องการใกล้เคียงกัน มีรูปแบบพันธนาการต่างๆ และของเล่นหลากหลายประเภทที่ใช้ในห้องนอน
แม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่าความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ดูดุร้าย แต่ก็ยังมีขอบเขตที่แตกต่างกันออกไป มีกฎเกณฑ์ที่ควรปฏิบัติตามและคุณควรเคารพความต้องการของกันและกันในรูปแบบความสัมพันธ์นี้
ทั้งนี้ คุณยังต้องแน่ใจว่ามีคุณเคารพและสร้างความปลอดภัยต่อกันและกัน
CO-DEPENDENT RELATIONSHIP (โค ดีเพนเด้น รีเลชั่นชิพ)
ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันคือความสัมพันธ์ที่คนสองคนในนั้นผูกติดอยู่ด้วยกันเสมอตลอดเวลา พวกเขามักจะทำสิ่งต่างๆ ด้วยกันเสมอ
ข้อเสียของความสัมพันธ์รูปแบบนี้คือการที่คุณขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ เมื่อหากคุณขาดคนใดคนหนึ่งไป คุณผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ใดๆของตนได้โดยปราศจากคนรักของตน
ในความสัมพันธ์ที่ดี คุณควรแยกตัวจากคนรักในบางครั้ง คุณไม่ควรต้องพึ่งพาคนรักในทุกสิ่ง
บางครั้งคู่ของคุณอาจต้องการออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ หรือพวกเขาจะแยกจากคุณเพราะการเรียนหรือที่ทำงาน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรที่จะไม่พึ่งคู่ของคุณมากเกินไป
CASUAL RELATIONSHIP (แคชชวล รีเลชั่นชิพ)
ความสัมพันธ์รูปแบบที่ไม่เป็นทางการ มักจะเป็นความสัมพันธ์ที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่ คุณและอีกฝ่ายหนึ่งได้พบกัน แต่คุณและใครคนนั้นยังไม่ได้กำหนดความสัมพันธ์
คนที่มีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการมักจะยังไม่รู้จักครอบครัวของอีกฝ่าย ในบางครั้งอาจจะยังไม่แนะนำให้พบกับเพื่อนๆ ของแต่ละฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
เนื่องจากคนที่มีความสัมพันธ์แบบสบายๆ ไม่ซีเรียส พวกเขามักจะไม่แนะนำคนสำคัญในชีวิตของพวกเขาให้กันและกัน สิ่งนี้สมเหตุสมผลสำหรับคนบางกลุ่มที่ไม่ต้องการที่จะผูกมัดอยู่ในความสัมพันธ์นอกเหนือจากตนเองและคนรักก่อนเพียงเท่านั้น
แต่ทั้งนี้หากความรู้สึกของคุณได้พัฒนาขึ้นคุณจึงไม่ควรที่จะลังเลถามถึงสิ่งที่คุณต้องการในความสัมพันธ์นั้น ซึ่งรวมไปถึงการตกลงใช้ชีวิตร่วมกันอย่างจริงจังเมื่อเวลานั้นมาถึง
FRIENDS WITH BENEFITS (เฟรนด์วิดเบเนฟิต)
Friend with benefits สถานการณ์ระหว่างเพื่อนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไม่ใช่ความสัมพันธ์อย่างแท้จริง เป็นความสัมพันธ์ที่คนสองคนตกลงที่จะสนิทสนม แต่ไม่มีข้อผูกมัด
ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณจึงจำเป็นที่จะต้องไม่ควรมีความรู้สึกโรแมนติกลึกซึ้งเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณไม่ใช่แฟนกันและกัน และคุณไม่ได้มีความพิเศษต่อคนนั้นไปมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ นี่เป็นความสัมพันธ์ทางกายภาพเพียงเท่านั้น
การหา Friend with benefits อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากลักษณะของความสัมพันธ์รูปแบบนี้ค่อนข้างที่จะสวนทางกับความรู้สึก เพราะว่าจะต้องเป็นไปโดยปราศจากความรู้สึกทางอารมณ์รัก หวงแหน เป็นต้น เพราะเพียงแค่คุณและเพื่อนสนิทสนมกัน ไม่ได้หมายความว่ามันจะพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริง เพื่อนบางคนที่อยู่ในสถานการณ์แบบ Friend with benefits สามารถอยู่ได้นานหลายปี
บางครั้ง Friend with benefits ก็แยกจากกันไป และจากนั้นพวกเขาก็จะกลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้งในภายหลัง บางครั้งพวกเขาก็ห่างเหินกันหากพบแฟนที่ต้องการจะอยู่ในความสัมพันธ์อย่างจริงจัง แล้วบางครั้งพวกเขาก็กลับมาคบกันใหม่อีกครั้งในภายหลังหากความสัมพันธ์แบบจริงจังของแต่ละคนนั้นจบลง
ENGAGEMENT (เอนเกจเม้น)
การหมั้น คือข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อคนสองคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน
ข้อเสนอจะต้องเกิดขึ้นเพื่อให้คนสองคนมีส่วนร่วม ตามเนื้อผ้า ผู้ชายจะคุยกับพ่อแม่ของเด็กผู้หญิงเกี่ยวกับความตั้งใจที่จะแต่งงานกับเธอ ถ้าผู้ชายเป็นคนดั้งเดิมจริงๆ เขาจะขอพรจากพ่อแม่ของเด็กผู้หญิง
ด้วยวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกันเมื่อพูดถึงการตกลงที่จะแต่งงานกัน โดยปกติจะมีแหวนหมั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อขอแต่งแต่งงานหรือการทำเซอร์ไพรส์
การขอแต่งงานอาจจะดูเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ แต่คุณควรพูดถึงการแต่งงานด้วยกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจตรงกัน หากคนใดคนหนึ่งยังไม่อยากแต่งงานหรือยังไม่พร้อมสำหรับการแต่งงาน ก็ไม่ควรพยายามหมั้นหมาย
เมื่อคนสองคนหมั้นกันแล้ว ทั้งคู่ก็จะเริ่มวางแผนงานแต่งงานของพวกเขา บางคนอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Engagement ในระยะเวลาสั้นก็แต่งงานกัน แต่สำหรับบางคนอาจอยู่ในการหมั้นหมายนี้นานเป็นปีๆ
TOXIC RELATIONSHIP (ทอคสิก รีเลชั่นชิพ)
Toxic Relationship หรือ ความสัมพันธ์ที่ทำร้ายความรู้สึกซึ่งกันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายเท่าไรนัก ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามคงไม่ปรารถนาที่จะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้อย่างแน่นอน
สิ่งที่คุณทำอาจเป็นการสร้างการทำร้ายจิตใจของคนรักของคุณ หากใครบางคนในความสัมพันธ์ถูกทำร้าย ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็อาจเป็นความสัมพันธ์แบบ Toxic ได้
ในความสัมพันธ์นี้ คุณจะเห็นว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แย่ๆ ของอีกฝ่าย เกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเป็นครั้งคราว มันเปรียบเสมือนเป็นรถไฟเหาะของอารมณ์ที่ระบายออกมาและสร้างความเสียหายให้กับความรู้สึกของอีกฝ่ายได้
และถ้าหาความสัมพันธ์ของคุณนั้นเกิดอารมณ์ในลักษณะนี้ต่อกันและกันทุกวัน มันคือสัญญาณเริ่มแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Toxic
คนรักของคุณอาจจะพึ่งพาคุณในการแก้ปัญหาทั้งหมดของพวกเขา แม้ว่าการอยู่เคียงข้างเพื่อคนที่คุณรักเป็นสิ่งสำคัญ แต่พวกเขาไม่ควรพยายามสร้างภาระและมอบปัญหาทั้งหมดให้กับคุณได้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทั้งหมดนี้คือ 10 รูปแบบความสัมพันธ์ที่เราอยากนำมาเสนอมุมมองต่างๆ ทางด้านความรักให้ทุกคนได้เรียนรู้มากขึ้น อย่างที่บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้กับชีวิตของคนเรา การรักตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเรารักตัวเองและเห็นคุณค่ามากพอ เราก็พร้อมที่จะมอบความรักของเราให้กับผู้อื่นต่อไปค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แคปชั่นภาษาอังกฤษ คำคมเกี่ยวกับความรักหวานๆ
- เรียกที่รักเป็น ภาษาอังกฤษ อย่างไรให้ So Cute!
- ภาษารัก 15 วิธีบอกรักเป็น ภาษาอังกฤษ “I love you” in other words
ข้อมูลจาก : https://www.luvze.com/types-of-relationships/