ไปอยู่อังกฤษ วีซ่าคู่หมั้น วีซ่าติดตาม อังกฤษ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
สวัสดีค่ะ โพสต์นี้เราขอมาแบ่งปันประสบการณ์การย้ายไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ด้วยวีซ่าคู่หมั้นเพื่อไปแต่งงานและ วีซ่าติดตาม อังกฤษ นะคะ กรณีนี้สำหรับคนที่มีเเฟนเป็นชาวอังกฤษเท่านั้นนะคะ ถ้าหากว่าคุณและเเฟนตกลงปลงใจกันแล้วและพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันดังนั้นมันเป็นเรื่องง่ายมากเลยค่ะ ที่คุณจะทำเรื่องย้ายตามว่าที่สามีของคุณไป
ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเองนะคะ
ก่อนหน้านี้เราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่อังกฤษเป็นเวลา 6 เดือน โดยจุดประสงค์ของเราก็คือไปทดลองอยู่ใช้ชีวิตที่นั่นดูแบบไปอยู่จริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยว นึกออกไหมคะฟิลเที่ยวกับฟิลใช้ชีวิตมันต่างกันมากนะ เพราะสามเดือนเเรกเราก็นั่งร้องให้อยู่เกือบทุกวัน แต่เอาเป็นว่าหลังๆ มาเราก็เริ่มปรับตัวได้ และก็เริ่มชอบกับชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายอากาศเย็นสบายของที่นั่น จนเมื่อครบหกเดือนเเล้วก็ไม่รู้สึกอยากกลับบ้านเลยค่ะ
แต่เนื่องจากวีซ่าท่องเที่ยวที่เราได้ขอไปในครั้งที่ผ่านมานั้นเราสามารถอยู่ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ดังนั้นสำหรับการย้ายถิ่นฐานถาวรของเราจากไทยไปที่อังกฤษเราจึงจำเป็นที่จะต้องกลับไทยเพื่อมายื่นวีซ่าคู่หมั้นเข้าไปใหม่อีกรอบ เนื่องจากว่าวีซ่าท่องเที่ยวทั่วไปนั้นเราไม่สามารถที่จะจดทะเบียนเเต่งงานที่อังกฤษได้ (บางคนอาจจะทำได้เเต่เราไม่อยากที่จะมีปัญหาภายหลัง) และเมื่อเราได้วีซ่าคู่หมั้นเพื่อไปเเต่งงานจดทะเบียนที่อังกฤษแล้ว ต่อจากนั้นเราจึงจะสามารถขอ Settlement Visa ได้นั่นเองค่ะ
Gettgo: ซื้อประกันเดินทาง เปรียบเทียบประกันเดินทาง ง่ายๆ เร็วๆ และคุ้มที่สุด
ไปต่างประเทศเปรียบเทียบราคาซื้อประกันการเดินทางได้ที่เว็บนี้เลยค่ะ เดินทางได้ทั่วโลก >> Gettgo เปรียบเทียบราคาที่นี่
ขั้นตอน
- ยื่นว่าซ่าคู่หมั้นที่ไทยเพื่อไปแต่งงานที่อังกฤษ โดยจะต้องมีใบสอบภาษาระดับ A1 หรือ B1 และใบตรวจปอดด้วย
- เมื่อถึงอังกฤษภายในระยะเวลาของวีซ่าเราจะต้องดำเนินการเรื่องแต่งงานให้เรียบร้อย อันนี้ให้เเฟนจัดการทำจอง Booking Ceremony ในเขตที่อาศัยอยู่หรือที่ที่คิดว่าสะดวก
- เมื่อเเต่งงานเสร็จแล้วก็จะต้องทำเรื่องยื่น วีซ่าติดตาม อังกฤษ เพื่ออยู่ต่อระยะยาว วีซ่านี้หละค่ะที่เราจะสามารถทำงานได้ในอังกฤษ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
£1523 : Fiance Visa Apply in Thailand
£150 : English Test B1
£100 : TB Test
รวมค่าใช้จ่าย : £1,773 (เรทเงินปอนด์ประมาณ 42-43 บาท ต่อปอนด์)
(วีซ่าคู่หมั้นนี้สามารถอาศัยอยู่ในอังกฤษได้ 6 เดือน และภายในระยะเวลานี้จะต้องดำเนินการแต่งงานให้เรียบร้อยเพื่อยื่นวีซ่าติดตาม)
สมัครวีซ่าได้ที่นี่ >> https://www.gov.uk/uk-family-visa
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอังกฤษ
£1,033 : Settlement-partner Visa (Apply in UK)
£1,560 : IHS – immigration health surcharge (£624/ปี เรทนี้คิด จำนวนเงินที่ระบุคือ 2.5 ปี ตามระยะของวีซ่า)
รวมค่าใช้จ่าย : £2,593 (จ่ายเมื่อดำเนินการยื่นวีซ่าติดตามในอังกฤษหลังจากเเต่งงานเรียบร้อยแล้ว)
จริงๆ แล้วถ้าหากว่าในใสถานการณ์ปกติมันจะมีวิธีการที่ง่ายกว่านี้และก็สามารถประหยัดเวลาและค่าวีซ่าได้เยอะทีเดียวก็คือว่าให้เเฟนคุณบินมาที่ไทยเพื่อจดทะเบียน จากนั้นคุณก็แค่ขอ Settlement Visa จากไทยไปได้เลยโดยที่เมื่อคุณไปถึงคุณจะสามารถขอ Nation Insurance Number เพื่อเริ่มต้นการทำงานที่อังกฤษได้เลย หรือเเม้แต่การเข้ารับการรักษาทางด้านสุขภาพของอังกฤษ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดการเดินทางค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัดเราจึงได้เลือกใช้วิธีนี้เพราะคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน
คุณสมบัติของเเฟนชาวอังกฤษ
ที่สามารถสปอนเซอร์วีซ่าติดตามให้เราได้นะคะ
- เป็นคนสัญชาติอังกฤษ (British Citizen) มีรายได้อย่างน้อย 18,600 ปอนด์ต่อปี
- หรือ เป็นผู้มีเงินเก็บ £16,000 ในบัญชีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขรายได้สำหรับยื่นวีซ่าที่นี่ค่ะ >> https://www.gov.uk/uk-family-visa/proof-income
สรุปแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดในส่วนของวีซ่าก็คือ 4,366 ปอนด์ หรือประมาณ 187,738 บาท (43 บาท ต่อ 1 ปอนด์)
(ซึ่งจำนวนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายคร่าวๆ นะคะ อาจจะไม่รวบยิบย่อยอย่างอื่น อันนี้เรานำมาให้ไว้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่)
เคสของเราเป็นเคสที่ขอจากไทยเพื่อไปเเต่งงานที่อังกฤษ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ที่เเต่งงานที่ไทยแล้วขอวีซ่าติดตามจากที่ไทยไปได้เลยค่ะ ไม่ต้องขอเป็นวีซ่าคู่หมั้น ราคาวีซ่า £1523 ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยนะคะ ถ้าหากคุณพี่ท่านไหนมีลูกติดตามไปด้วยก็จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับน้องเพิ่มเติมมาด้วย
ศึกษาเพิ่มเติมที่นี่ได้เลยค่ะ >> https://www.gov.uk/uk-family-visa
IHS – immigration health surcharge คืออะไร? จริงๆ แล้วมันก็เปรียบเสมือนค่าประกันสุขภาพค่ะ ที่ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วยอะไรเราก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี
อ่านเกี่ยวกับ IHS ได้ที่นี่ค่ะ >> https://www.gov.uk/healthcare-immigration-application
เอกสารฝ่ายหญิง/ชาย (British Citizen)
- จดหมายแนะนำความสัมพันธ์ + Plan for the wedding, Plan for settle
- Copy passport ทุกหน้าของแฟน
- Copy ใบขับขี่
- Copy ใบเกิด
- Work contract (Permanent)
- หนังสือรับรองการทำงาน (Job Title, Salary, Date of Employment)
- Bank statement 6 เดือน
- Pay slip 6 เดือน
- P60
กรณีของเรา เนื่องจากเราจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ของเเฟนเราจึงมีเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา แฟน และเเม่ของเเฟนรวมถึงจดหมายเชิญด้วย
เอกสารฝ่ายหญิง/ชาย (Thai Citizen)
- Passport ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน
- จดหมายแนะนำตัว อธิบายความสัมพันธ์และแผนการแต่งงาน
- สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ต้องแปล)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (แปลและเซนรับรองเอง + อัพโหลดคู่กัน)
- สำเนาใบเกิด (แปลและเซนรับรองเอง + อัพโหลดคู่กัน)
- ใบรับรองโสด (แปลรับรองโดยกงสุล + อัพโหลดคู่กัน)
- รูปภาพแสดงความสัมพันธ์
- Chats, photo Facebook, line
- หลักฐานอื่นๆในการใช้เวลาร่วมกัน เช่น จองโรงแรม สายการบิน
- ใบตรวจปอด TB test : IOM Tuberculosis certificate
- ผลสอบภาษาอังกฤษ English Test ผลสอบภาษาอังกฤษระดับ B1 หรือ A1
ในส่วนของเอกสารราชการหากขอฉบับภาษาอังกฤษจากทางราชการแล้วไม่ต้องรับรองกงศุลก็ได้ค่ะ ตามที่เราได้ค้นหามาเเต่มีใบรับรองโสดที่ต้องรับรองกงศุลนะคะ
รีวิวประสบการณ์การยื่นขอวีซ่าติดตามในอังกฤษที่ศูนย์แมนเชสเตอร์
รีวิวประสบการณ์สอบ B1 IELTS Life Skills สำหรับยื่นวีซ่าคู่หมั้นอังกฤษ UK Fiance VISA
อ่านเพิ่มเติม
- ขอวีซ่าอังกฤษ รีวิวขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับคนไทย (UK Visa for Thai)
- ตัวอย่างจดหมายเชิญจากสปอนเซอร์ UK VISA invitation letter